- เข้าร่วม
- 1 มิถุนายน 2011
- ข้อความ
- 9,804
- กระทู้ ผู้เขียน
- #1
พรรคเพื่อไทย ประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุเกิน 16 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้
วันนี้ (7 เมษายน) พรรคเพื่อไทยได้แถลงรายละเอียดเพิ่มเติมของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบายและประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค, นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค เป็นผู้ร่วมแถลง
สรุปรายละเอียดที่ถอดความโดยเว็บไซต์มติชน
ที่มา - มติชน, Voice TV, ไทยรัฐ
Topics:
Pheu Thai Party
Thailand
Politics
Blockchain
CBDC
อ่านต่อ...
วันนี้ (7 เมษายน) พรรคเพื่อไทยได้แถลงรายละเอียดเพิ่มเติมของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบายและประธานกรรมการด้านเศรษฐกิจ, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค, นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรค เป็นผู้ร่วมแถลง
สรุปรายละเอียดที่ถอดความโดยเว็บไซต์มติชน
- ตั้งใจให้เป็นเงินดิจิทัล ไม่ให้เงินสด เพราะต้องการนำเทคโนโลยีมาจำกัดวิธีการใช้เงินบางประเภทที่ไม่เหมาะสมได้ เช่น การพนัน ยาเสพติด หนี้นอกระบบ
- สามารถนำเงินดิจิทัลไปจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันได้ แต่ไม่อนุญาตให้ใช้ซื้อบุหรี่และใช้หนี้นอกระบบ
- กำหนดระยะเวลาให้ใช้ภายใน 6 เดือน และจำกัดรัศมีการใช้งานตามบัตรประชาชน 4 กิโลเมตร หากพื้นที่ไหนไม่มีร้านค้าสามารถขยายได้ (นายเศรษฐาบอกว่าด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนจะขยายได้เป็น 7.5 กิโลเมตรหรือไกลกว่านั้น) แต่จะไม่อนุญาตให้ใช้นอกพื้นที่ได้เพราะต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน หากอาศัยอยู่คนละที่กับที่อยู่ในทะเบียนบ้าน จำเป็นต้องกลับไปเยี่ยมบ้านเท่านั้น
- นโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ในช่วง 6 เดือนจะมีมาตรการทางเศรษฐกิจอื่นๆ รองรับด้วย
- จากนี้ไป คนไทยจะมี 2 บัญชี คือ บัญชีออมทรัพย์ทั่วไป และ บัญชีดิจิทัลวอลเล็ต โดยใช้บล็อกเชนเขียนเงื่อนไขลงไปบนเงิน ว่าต้องใช้ภายใน 6 เดือน และรัศมี 4 กิโลเมตร ซึ่งแตกต่างจากแอพเป๋าตังเป็นเงินในโลกยุคเก่า
- หลังครบ 6 เดือนแล้ว สิ่งที่ได้กลับมาในระยะยาวคือโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินยุคใหม่ ที่อิงอยู่บน central bank digital currency (CBDC)
- จะให้ประชาชนเลือกระหว่างบัตรคนจน กับกระเป๋าเงินดิจิทัล อย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนที่มาของเงินจะมาจากงบประมาณบัตรคนจน 5 หมื่นล้านบาท, การรีดงบประมาณส่วนเงินในรายจ่ายงบประมาณปี 67 "หลายแสนล้าน", การเก็บภาษีที่เพิ่มขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 2 แสนล้าน
- คาดว่าจะเริ่มโครงการได้วันที่ 1 มกราคม 2567
ที่มา - มติชน, Voice TV, ไทยรัฐ
Topics:
Pheu Thai Party
Thailand
Politics
Blockchain
CBDC
อ่านต่อ...