งานวิจัย MIDiA บอกว่าในปี 2023 อุตสาหกรรมเพลงไทยมีรายได้รวม 11,317 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16% จากปีก่อนหน้า โดยมีดิจิทัลสตรีมมิงเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการเติบโตนี้ ซึ่งคิดเป็น 88% ของการเติบโตทั้งหมด
สำหรับจำนวนผู้ใช้มิวสิคสตรีมมิงในประเทศไทยในปี 2023 อยู่ที่ 3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26% หรือจาก 2.3 ล้านคนในปีก่อนหน้า ทำให้ MIDiA คาดการณ์ว่ามูลค่าอุตสาหกรรมเพลงไทยในปี 2023-2030 โตได้ถึง 3 เท่า ด้วยมูลค่ากว่า 31,246 ล้านบาท
ส่วนการเติบโตของยอด Subscription ของ Youtube ในประเทศไทย พบว่าราคาค่าสมาชิกสูงขึ้น 2 เท่าจาก 99 บาท เป็น 179 บาท และมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เมื่อเทียบตามตลาดประเทศพัฒนาแล้ว
ที่เป็นแบบนี้เพราะไทยยังมีช่องว่างในการเติบโตอีกมาก และคนฟังเพลงยุคใหม่พร้อมจ่ายเพื่อประสบการณ์ดนตรีแบบพรีเมียม ที่ได้ทั้งความสะดวกสบาย คุณภาพเสียงที่ดีกว่า การได้สิทธิ์ในการเข้าถึงคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟ และสิทธิพิเศษต่าง ๆ
MIDiA ยังคาดการณ์ว่ายอด subscription ของไทยจะโต 4 เท่าใน 7 ปี (ปี 2023-2030) และมีโอกาสโตได้อีกเท่าตัว เมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่อย่างญี่ปุ่นและเกาหลี ที่มียอดอยู่ที่ 25% และตลาดประเทศพัฒนาแล้วอย่างสวีเดนและสหรัฐอเมริกา ที่มียอดอยู่ที่ 45%
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก LUMINATE บอกว่า คนไทยฟังเพลงมากกว่าเล่นโซเชียลมีเดีย โดยในปี 2023 การฟังเพลงเป็นกิจกรรมความบันเทิงที่คนไทยนิยมสูงสุดถึง 75% ไม่ว่าจะเป็นเพลงใหม่ เพลงเก่า เพลงไทยก็ตาม ในขณะที่การดูคลิปสั้นบนโซเชียลมีเดียอยู่ที่ 60%
ส่วนพฤติกรรมการฟังเพลง พบว่าคนไทยฟังเพลงผ่านการชมมิวสิควิดีโอมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 87% ตามมาด้วยแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง 68% และคลิปสั้นผ่านโซเชียลมีเดีย 61%
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์
Topics:
Music
Subscription
Music Streaming
Continue reading...
สำหรับจำนวนผู้ใช้มิวสิคสตรีมมิงในประเทศไทยในปี 2023 อยู่ที่ 3 ล้านคน เพิ่มขึ้น 26% หรือจาก 2.3 ล้านคนในปีก่อนหน้า ทำให้ MIDiA คาดการณ์ว่ามูลค่าอุตสาหกรรมเพลงไทยในปี 2023-2030 โตได้ถึง 3 เท่า ด้วยมูลค่ากว่า 31,246 ล้านบาท
ส่วนการเติบโตของยอด Subscription ของ Youtube ในประเทศไทย พบว่าราคาค่าสมาชิกสูงขึ้น 2 เท่าจาก 99 บาท เป็น 179 บาท และมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เมื่อเทียบตามตลาดประเทศพัฒนาแล้ว
ที่เป็นแบบนี้เพราะไทยยังมีช่องว่างในการเติบโตอีกมาก และคนฟังเพลงยุคใหม่พร้อมจ่ายเพื่อประสบการณ์ดนตรีแบบพรีเมียม ที่ได้ทั้งความสะดวกสบาย คุณภาพเสียงที่ดีกว่า การได้สิทธิ์ในการเข้าถึงคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟ และสิทธิพิเศษต่าง ๆ
MIDiA ยังคาดการณ์ว่ายอด subscription ของไทยจะโต 4 เท่าใน 7 ปี (ปี 2023-2030) และมีโอกาสโตได้อีกเท่าตัว เมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่อย่างญี่ปุ่นและเกาหลี ที่มียอดอยู่ที่ 25% และตลาดประเทศพัฒนาแล้วอย่างสวีเดนและสหรัฐอเมริกา ที่มียอดอยู่ที่ 45%
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก LUMINATE บอกว่า คนไทยฟังเพลงมากกว่าเล่นโซเชียลมีเดีย โดยในปี 2023 การฟังเพลงเป็นกิจกรรมความบันเทิงที่คนไทยนิยมสูงสุดถึง 75% ไม่ว่าจะเป็นเพลงใหม่ เพลงเก่า เพลงไทยก็ตาม ในขณะที่การดูคลิปสั้นบนโซเชียลมีเดียอยู่ที่ 60%
ส่วนพฤติกรรมการฟังเพลง พบว่าคนไทยฟังเพลงผ่านการชมมิวสิควิดีโอมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งอยู่ที่ 87% ตามมาด้วยแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง 68% และคลิปสั้นผ่านโซเชียลมีเดีย 61%
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์
Topics:
Music
Subscription
Music Streaming
Continue reading...