- เข้าร่วม
- 1 มิถุนายน 2011
- ข้อความ
- 10,352
- กระทู้ ผู้เขียน
- #1
เหตุเกิดจากเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี ได้รับแจ้งเหตุกรณีวัตถุกัมมันตรังสี ‘ซีเซียม-137’ (Cesium-137, Cs-137) ของโรงไฟฟ้าของบริษัท NOS 5a ในอ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี สูญหายไป โดยวัตถุมีลักษณะเป็นทรงกระบอก มีตะกั่วอยู่ชั้นในและหุ้มด้วยเหล็กชั้นนอก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว หนัก 25 กิโลกรัม
จนเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นำโดยนายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้เข้าตรวจหารังสีในกองเศษเหล็กในโรงหลอมเหล็ก 2 แห่งในต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี และต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตรวจสอบพบสารบางอย่างแต่ไม่ระบุชนิด (ไม่มีการเปิดเผยชื่อของโรงหลอมเหล็กทั้ง 2 แห่งต่อสาธารณะ) โดยแบ่งเป็นประเด็นดังนี้
วันนี้ (20 มีนาคม) เวลา 11.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีและนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้จัดงานแถลงข่าวว่า ซีเซียม-137 ได้ถูกหลอมแล้วและพบในฝุ่นแดงหรือฝุ่นเหล็กที่มาจากการหลอมเล็กในเตาปิดของโรงหลอมจริง แต่ไม่พบวัตถุซีเซียม-137 ดั้งเดิมที่เป็นทรงกระบอก
โดยปกติแล้วซีเซียมมีจุดเดือดต่ำ เมื่อหลอมเหล็กออกมาก็จะกลายเป็นฝุ่นแดงหรือฝุ่นเหล็ก จากนั้นโรงงานจะส่งต่อไปยังโรงงานรีไซเคิลเพราะฝุ่นพวกนี้มีราคา แต่เมื่อตรวจสอบฝุ่นแดงที่โรงงานหลอมเหล็กส่งไปยังโรงงานรีไซเคิลในจ.ระยองแล้วไม่พบซีเซียมแต่อย่างใด
ส่วนฝุ่นแดงในโรงหลอมเหล็กมีจำนวน 24 ตัน บรรจุในถุงปิด 24 ถุง โดยพบว่ามีฝุ่นแดง 1 ถุงที่ถูกนำไปถมไว้ที่ที่ดินหลังโรงงาน แต่ได้นำฝุ่นมาใส่ถุงบรรจุและเก็บไว้ในที่ปิดมิดชิดแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าซีเซียม-137 ในฝุ่นแดงในโรงหลอมเหล็ก อ.กบินทร์บุรี มาจากแท่งซีเซียมทรงกระบอกที่หายไปจากโรงไฟฟ้าของ NOS 5a หรือไม่ นายเพิ่มสุขกล่าวว่าความเป็นไปได้ยังอยู่ที่ 50-50
ขณะนี้ได้ส่งทีมสาธารณสุขเข้าตรวจสุขภาพพนักงานทุกคนซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับสารกัมมันตรังสีแล้วว่ามีสารตกค้างหรือไม่ ผลการตรวจสุขภาพพบว่า ยังไม่พบผู้ป่วยหรือผู้ที่มีสารตกค้างในร่างกาย
นายเพิ่มสุขยืนยันว่า ฝุ่นแดงที่เกิดจากการหลอมยังไม่ฟุ้งกระจายออกไปนอกพื้นที่และเป็นอันตรายต่อประชาชนโดนทั่วไปเพราะหลังจากหลอมแล้วถูกปิดในที่มิดชิดในพื้นที่โรงงาน
พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปราจีนบุรี ได้เผยว่า การตรวจสอบสาเหตุที่ซีเซียม-137 สูญหายอยู่ในกระบวนการของตำรวจ โดยขณะนี้กำลังไล่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งบางตัวใช้งานได้ บางตัวใช้งานไม่ได้ แต่คาดว่ามีคนตั้งใจเอาไปเนื่องจากการจะนำวัตถุที่มีน้ำหนัก 25 กิโลกรัมออกไปได้เป็นเรื่องยากมาก
นอกจากนี้ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ป.ส.) ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของโรงไฟฟ้าแล้ว เนื่องจากเป็นผู้ครอบครองวัตถุที่หายไปและไม่แจ้งโดยพลัน ตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2562 มาตรา 100 โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี เนื่องจากวัตถุหายไปตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมแต่เข้าแจ้งในวันที่ 10 มีนาคม
นายแพทย์สมรส พงศ์ละไม ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของซีเซียม-137 ว่า สามารถปนเปื้อนและสะสมได้ในทั้งดิน น้ำ และอาหารและมีผลร้ายแรงมากต่อสุขภาพร่างกายของมนุษย์เพราะอนุภาคบีต้าและรังสีแกมมาทำให้เกิดมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดข่าวและไทรอยด์
นายแพทย์สมรสยังเสนอให้มีการเฝ้าระวังเร่งด่วนสำหรับคนที่เสี่ยงต่อการสัมผัสซีเซียม โดยสังเกตอาการเช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ผิวไหม้ พร้อมเสนอให้รัฐบาลควรเก็บข้อมูลอย่างโปร่งใสโดยเฉพาะจากคนที่อยู่ในระยะ 5-10 เมตร
ที่มา - สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
Topics:
Radioactivity
Thailand
อ่านต่อ...
จนเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่นำโดยนายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้เข้าตรวจหารังสีในกองเศษเหล็กในโรงหลอมเหล็ก 2 แห่งในต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี และต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตรวจสอบพบสารบางอย่างแต่ไม่ระบุชนิด (ไม่มีการเปิดเผยชื่อของโรงหลอมเหล็กทั้ง 2 แห่งต่อสาธารณะ) โดยแบ่งเป็นประเด็นดังนี้
ตรวจพบฝุ่นแดงที่ปนเปื้อนสารซีเซียม
วันนี้ (20 มีนาคม) เวลา 11.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีและนายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้จัดงานแถลงข่าวว่า ซีเซียม-137 ได้ถูกหลอมแล้วและพบในฝุ่นแดงหรือฝุ่นเหล็กที่มาจากการหลอมเล็กในเตาปิดของโรงหลอมจริง แต่ไม่พบวัตถุซีเซียม-137 ดั้งเดิมที่เป็นทรงกระบอก
โดยปกติแล้วซีเซียมมีจุดเดือดต่ำ เมื่อหลอมเหล็กออกมาก็จะกลายเป็นฝุ่นแดงหรือฝุ่นเหล็ก จากนั้นโรงงานจะส่งต่อไปยังโรงงานรีไซเคิลเพราะฝุ่นพวกนี้มีราคา แต่เมื่อตรวจสอบฝุ่นแดงที่โรงงานหลอมเหล็กส่งไปยังโรงงานรีไซเคิลในจ.ระยองแล้วไม่พบซีเซียมแต่อย่างใด
ส่วนฝุ่นแดงในโรงหลอมเหล็กมีจำนวน 24 ตัน บรรจุในถุงปิด 24 ถุง โดยพบว่ามีฝุ่นแดง 1 ถุงที่ถูกนำไปถมไว้ที่ที่ดินหลังโรงงาน แต่ได้นำฝุ่นมาใส่ถุงบรรจุและเก็บไว้ในที่ปิดมิดชิดแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่าซีเซียม-137 ในฝุ่นแดงในโรงหลอมเหล็ก อ.กบินทร์บุรี มาจากแท่งซีเซียมทรงกระบอกที่หายไปจากโรงไฟฟ้าของ NOS 5a หรือไม่ นายเพิ่มสุขกล่าวว่าความเป็นไปได้ยังอยู่ที่ 50-50
ซีเซียมไม่สามารถเล็ดรอดจากโรงหลอมเหล็ก ยันไม่กระทบประชาชน
ขณะนี้ได้ส่งทีมสาธารณสุขเข้าตรวจสุขภาพพนักงานทุกคนซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับสารกัมมันตรังสีแล้วว่ามีสารตกค้างหรือไม่ ผลการตรวจสุขภาพพบว่า ยังไม่พบผู้ป่วยหรือผู้ที่มีสารตกค้างในร่างกาย
นายเพิ่มสุขยืนยันว่า ฝุ่นแดงที่เกิดจากการหลอมยังไม่ฟุ้งกระจายออกไปนอกพื้นที่และเป็นอันตรายต่อประชาชนโดนทั่วไปเพราะหลังจากหลอมแล้วถูกปิดในที่มิดชิดในพื้นที่โรงงาน
เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสอบสวนสาเหตุที่ซีเซียม-137 สูญหายไป
พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ปราจีนบุรี ได้เผยว่า การตรวจสอบสาเหตุที่ซีเซียม-137 สูญหายอยู่ในกระบวนการของตำรวจ โดยขณะนี้กำลังไล่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดซึ่งบางตัวใช้งานได้ บางตัวใช้งานไม่ได้ แต่คาดว่ามีคนตั้งใจเอาไปเนื่องจากการจะนำวัตถุที่มีน้ำหนัก 25 กิโลกรัมออกไปได้เป็นเรื่องยากมาก
นอกจากนี้ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ป.ส.) ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของโรงไฟฟ้าแล้ว เนื่องจากเป็นผู้ครอบครองวัตถุที่หายไปและไม่แจ้งโดยพลัน ตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2562 มาตรา 100 โทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี เนื่องจากวัตถุหายไปตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมแต่เข้าแจ้งในวันที่ 10 มีนาคม
ผลกระทบและคำแนะนำในการป้องกัน
นายแพทย์สมรส พงศ์ละไม ได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของซีเซียม-137 ว่า สามารถปนเปื้อนและสะสมได้ในทั้งดิน น้ำ และอาหารและมีผลร้ายแรงมากต่อสุขภาพร่างกายของมนุษย์เพราะอนุภาคบีต้าและรังสีแกมมาทำให้เกิดมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเม็ดเลือดข่าวและไทรอยด์
นายแพทย์สมรสยังเสนอให้มีการเฝ้าระวังเร่งด่วนสำหรับคนที่เสี่ยงต่อการสัมผัสซีเซียม โดยสังเกตอาการเช่น คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ผิวไหม้ พร้อมเสนอให้รัฐบาลควรเก็บข้อมูลอย่างโปร่งใสโดยเฉพาะจากคนที่อยู่ในระยะ 5-10 เมตร
ที่มา - สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปราจีนบุรี
Topics:
Radioactivity
Thailand
อ่านต่อ...