กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see


ข่าว เพราะทีมคือฟันเฟืองหลัก M Intelligence จึงให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

  • ผู้เริ่มหัวข้อ ผู้เริ่มหัวข้อ News 
  • วันที่เริ่มต้น วันที่เริ่มต้น

News 

Moderator
สมาชิกทีมงาน
Moderator
Verify member
เข้าร่วม
1 มิถุนายน 2011
ข้อความ
9,802
  • กระทู้ ผู้เขียน
  • #1
คงปฏิเสธไม่ได้สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งในธุรกิจปัจจุบันคือการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า (end customer) ไปจนถึงการทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีที่สุด ดังนั้นหนึ่งในสิ่งที่องค์กรให้ความสนใจอย่างมากคือมองหา vendor ที่มีประสบการ์และช่วยพัฒนาเครื่องมือด้านนี้

M Intelligence เป็นบริษัทเทคที่เชี่ยวชาญการพัฒนาเครื่องมือด้าน Customer Experience โดยเฉพาะ รวมถึงเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี, การวิเคราะห์และเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อทำการตลาด

และตอนนี้ M Intelligence กำลังเปิดรับนักพัฒนาเพิ่มอยู่ด้วย

ed0b5299742c63801424290fa50b190e.jpg


M Intelligence ให้บริการให้คำปรึกษา เพื่อตอบโจทย์องค์กรในแง่การพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าให้ได้ออกมาดีที่สุด โดยเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท CRM ระดับโลกอย่าง Saleforce ด้วย ขณะที่ลูกค้าของ M Intelligence ก็ค่อนข้างหลากหลายอุตสาหกรรมและหลากหลายสเกล ที่ใหญ่ๆ ก็มีเช่นอสังหาริมทรัพย์และการเงิน อย่างประกันหรือธนาคาร

คุณณัฐพล ตันตยกุล ตำแหน่ง Project Director ของ M Intelligence เล่าว่าช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตค่อนข้างมาก ซึ่งสะท้อนออกมาได้จากจำนวนของพนักงานที่เติบโตถึง 170% และหนึ่งในความท้าทายของ M Intelligence คือการพัฒนาคนให้เติบโตไปด้วยกันกับบริษัท ซึ่ง M Intelligence เองก็มีการวาง journey ของพนักงานให้ตั้งแต่เข้ามาทำงานวันแรก

c395a5ea5801c1193cddca37eeb3a341.jpg
คุณณัฐพล ตันตยกุล, Project Director, M Intelligence

การพัฒนาคนนี้นี่แหละที่ M Intelligence ให้ความสำคัญอันดับ 1 โดยมีการวางระบบ Mentor / Mentee ให้กับพนักงานใหม่หรือน้องฝึกงาน และมีโปรแกรมบูทแคมป์ ที่ไม่ใช่แค่การ orientation แนะนำบริษัท แต่วางโปรแกรมทั้งหมด 4 สัปดาห์ สอนทั้งพื้นฐานของ Saleforce แต่ละผลิตภัณฑ์มันแตกต่างกันอย่างไร มีกระบวนการอะไรบ้าง ไปจนถึงการบริหารโปรเจ็คว่าควรทำอย่างไร

ขณะที่สัปดาห์สุดท้ายของบูทแคมป์ จะเป็นการทำโจทย์ Business Case ที่ได้รับตั้งแต่วันแรก ว่าหลังจากเรียนรู้ทุกอย่างมาแล้ว จะสามารถแก้โจทย์ คิดโซลูชันและนำเสนอลูกค้า ไปจนถึงตอบคำถามลูกค้าได้มากน้อยแค่ไหนในสถานการณ์จริง ซึ่งแต่ตำแหน่งก็จะมีเกณฑ์ที่แตกต่างกัน หากทำครั้งแรกไม่ผ่าน ก็ให้โอกาสในการกลับมาทำรอบที่ 2 และ 3 โดยคนที่ผ่านบูทแคมป์ จะเท่ากับว่ามีศักยภาพมากพอที่จะไปเจอกับลูกค้าในสถานการณ์จริงแล้ว

48766ddfb9a184fb4f1d39301a58a89e.jpg


ส่วนในแง่การทำงาน พนักงานภายในจะมีการแบ่งกลุ่มเป็นเหมือนหมู่บ้าน ประกอบไปด้วยทีมงานจากหลากหลายฟังก์ชันหลากหลายหน้าที่ ในแต่ละหมู่บ้านจะมี leader ที่ทำหน้าที่คล้าย PM ของหมู่บ้านและคนที่มีความเป็นผู้นำก็จะได้รับมอบหมายหน้าที่นี้ โดยจะทำงานกันเป็น squad ภายในหมู่บ้านของแต่ละโปรเจ็ค

คนที่เป็น leader ของหมู่บ้านก็มีหน้าที่ดูแล ให้คำแนะนำหรือให้ความช่วยเหลือลูกบ้านถึงปัญหาของแต่ละโปรเจ็ค ขณะเดียวกันพนักงานแต่ละคนก็จะมี leader ที่ด้านทักษะตามตำแหน่งของตัวเองอยู่ด้วยเช่นกัน เช่น Solution Consultant ก็จะมีพี่ที่เป็น Lead Solution Consultant คอยแนะนำเรื่องทักษะ ไปจนถึง career path ดังนั้นพนักงานที่นี่จะได้รับการพัฒนาทั้ง 2 แกนควบคู่กันไป ทั้งทักษะเฉพาะทาง และการทำงานจากแต่ละโปรเจ็ค

ดูไฟล์แนบ 63ec88c3c561e5ead0dc3b746802ec8a.jpg

ขณะที่ในทีมเทค คุณไพบูลย์ ตุ้มทองคำ ตำแหน่ง Software Development Manager เล่าว่าความท้าทายของทีมเทค คือต้องทำผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้มากที่สุด และรักษามาตรฐานให้กับลูกค้าทุกราย เพราะลูกค้ามาจากหลากหลายอุตสาหกรรม หลากหลายปัญหา รวมถึงทีมต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ค้นหา Tech Stack ใหม่ๆ เพราะเทคโนโลยีก็วิ่งไปเรื่อยๆ ไม่หยุดเช่นกัน

ดูไฟล์แนบ 29aac888d36f4f014c123f320df9b044.jpgคุณไพบูลย์ ตุ้มทองคำ Software Development Manager

คุณไพบูลย์บอกว่าการพัฒนาโซลูชันที่นี่ มั่นใจได้ว่าจะสร้างความแตกต่างให้กับลูกค้าองค์กรได้จริง เพราะบริษัทมีนักการตลาดที่เชี่ยวชาญ รู้ว่าลูกค้า (end customers) ต้องการอะไร และลูกค้าองค์กรควรพัฒนาเครื่องมือให้กับคนใช้อย่างไร ในแง่เทคโนโลยีบริษัทก็ลงทุนเยอะ เพื่อทำสิ่งที่ใหญ่พอๆ กับเงินลงทุนนั้น

รูปแบบการทำงานก็ตามสมัยนิยมคือเป็นระบบ Agile / Sprint ขณะที่ Tech Stack หลักๆ ก็ มี Vue.js และ React Typescipt เป็น Front End ส่วน Back End ใช้ Java และ Node JS และดาต้าเบสก็ใช้ Firebase, PostgreSQL และ Salesforce Object Query Language (SOQL)

ดูไฟล์แนบ e34cfb26973cd4277fdac743488bac87.jpg

คุณไพบูลย์บอกว่าความประทับใจที่นี่ คือบริษัทผลักดันให้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ขณะที่บริษัทก็พัฒนาและโตขึ้น เห็นความเจริญเติบโตทุกด้านของบริษัท ส่วนในแง่เพื่อนร่วมงาน ก็เป็นกลุ่มคนที่ใกล้เคียงกัน ทั้งนิสัยและอายุ แม้กระทั่งผู้บริหารด้วย มีเที่ยว สังสรรค์กันบ่อย ขณะที่เมื่อทำงาน ก็ลงไปลุยงานด้วยกัน

สวัสดิการ​

  • Flexible Working Hour
  • เบิกจ่ายค่าเดินทางได้ตามจริง
  • เบิกจ่ายค่าโทรศัพท์
  • เงินโบนัสประจำปี
  • Provident Fund ของ UOB
  • Flexi Benefit เบิกอะไรก็ได้ที่ส่งเสริมการทำงาน 8,000-15,000 บาท
  • ประกันสังคม
  • ประกันสุขภาพ
  • ตรวจสุขภาพประจำปี
  • วันลาพักร้อน 14 วัน ต่อปี
  • ลาวันเกิด 1 วันในเดือนเกิด
  • ค่าเดินทางที่เกี่ยวข้องกับการพบปะลูกค้าของบริษัท โดยคำนวณตามระเบียบของบริษัท
  • Company Trip
  • ค่าใช้จ่ายในการสอบใบประกาศนียบัตรตามที่บริษัทกำหนด
  • มีปาร์ตี้แทบจะทุกอาทิตย์ มีแอลกอฮอล์อร่อยๆ ให้ดื่มเรื่อยๆ

ดูไฟล์แนบ 14b034f09d68a2e83d7774470495560f.jpg

เสียงสะท้อนจากทีมงาน​


คุณกันทรากร โพธยานุวัตร (แชมป์) ตำแหน่ง Software Tester

b5affa359ea5c0f63accfa03f870e808.jpg


คุณแชมป์บอกว่าการทำงานที่นี่รู้สึกแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ ได้ทำงานกับทุกฝ่ายตั้งขั้นตอน breakdown requirement ทำให้ได้ร่วมงานกับทีมอื่นค่อนข้างมาก แล้วพอได้ใกล้ชิดกันก็พบว่า พนักงานที่ M Intelligence มีความคล้ายกันมาก ความชอบ และกิจกรรมอะไรต่างๆ ไปทางเดียวกันหมดเลย ทำให้สามารถ คุยกันได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะงานหรือนอกงาน

ส่วนคนที่คิดว่าเหมาะกับการทำงานที่นี่ ต้องเป็นละเอียด เพราะ requirement ลูกค้าเยอะและหลากหลายมาก รวมถึงต้องกล้าพูดกล้าแสดงความคิดเห็น กล้าคอมเมนท์ ถ้าเห็นจุดที่ปรับปรุงหรือพัฒนาได้ในเนื้องาน

คุณปวีณ์ธิดา ชวลิต น้องฝึกงานตำแหน่ง Salesforce Solution Consultant

ดูไฟล์แนบ 5bfc3070e75ddd81313980bc52572953.jpg

น้องปวีณ์ธิดาเล่าว่าตัวเองเรียนคณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และพอได้เรียน Salesforce มาบ้าง เลยอยากลองฝึกงานที่เกี่ยวกับ Salesforce ก่อนจะมาเจอที่นี่ ซึ่งตอนเข้ามาแรกๆ ก็กังวลเรื่ององค์กรความรู้ที่รู้สึกว่าตัวเองก็ไม่ได้รู้ลึกมากขนาดนั้น แต่ประทับใจการสอนของที่นี่ ตั้งแต่บูทแคมป์ที่ปูพื้นฐานและเตรียมพร้อมให้อย่างดี รวมถึงมีพี่ mentor คอยช่วยเหลือ แนะนำและสอนงานให้ตลอดทั้ง hard skills และ soft skills

น้องเลยรู้สึกว่าการฝึกงานที่นี่เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ เพราะแม้งานจะท้าทายมากๆ แต่สนุก บรรยากาศออฟฟิศก็ดีและเอื้อให้กับการทำงานมากๆ

ดูไฟล์แนบ a2e805299f1272a3d28dd786e6714943.jpg

ออฟฟิศ M Intelligence ตั้งอยู่ใจกลาง กทม. อยู่หลังตึกมหานคร ใกล้ BTS ช่องนนทรี และ BRT สาทร ดูรายละเอียดและกดสมัครงานที่สนใจได้ที่ Blognone Jobs, M Intelligence

Topics:
Blognone Workplace

อ่านต่อ...
 

ไฟล์แนบ


กรุณาปิด โปรแกรมบล๊อกโฆษณา เพราะเราอยู่ได้ด้วยโฆษณาที่ท่านเห็น
Please close the adblock program. Because we can live with the ads you see
กลับ
ยอดนิยม