- เข้าร่วม
- 1 มิถุนายน 2011
- ข้อความ
- 9,804
- กระทู้ ผู้เขียน
- #1
BioWare ยืนยันกับนิตยสาร Rolling Stone ว่าเกม Dragon Age: The Veilguard ไม่มีแผนทำเนื้อหาเสริม DLC เพิ่มเติมอีกแล้ว และตอนนี้กำลังทุ่มกำลังทั้งหมดไปพัฒนาเกม Mass Effect ภาคใหม่
เกม Dragon Age ภาคก่อนๆ มีเนื้อหาภาคเสริมหรือ DLC กันถ้วนหน้า แต่สถานการณ์ของ BioWare รอบนี้คงแตกต่างออกไป เพราะต้องการทุ่มการพัฒนา Mass Effect ภาคใหม่เพื่อมากู้ชื่อของบริษัทให้ต่อเนื่องจาก Dragon Age: The Veilguard หลังความล้มเหลวครั้งใหญ่ของ Anthem
John Epler หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของ BioWare ยังให้สัมภาษณ์กับ Rolling Stone ว่าตอนออกเกม Dragon Age: Inquisition ในปี 2014 ที่เพิ่มส่วนการเล่นมัลติเพลเยอร์เข้ามา ก็เคยสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนๆ ในยุคนั้น พอถึงการพัฒนา The Veilguard ก็มีการลองทำมัลติเพลเยอร์เช่นกัน เพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมในการเล่าเรื่อง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจมุ่งมาทำเกมเล่นคนเดียวที่เป็นรากเหง้าของสตูดิโอ
การตัดสินใจสำคัญของ BioWare คือเปลี่ยนมาใช้ระบบปาร์ตี้ 3 คน (เหมือน Mass Effect) ซึ่งต่างจาก Dragon Age ภาคก่อนๆ ที่ใช้ปาร์ตี้ 4 คน ตอนแรกทีมออกแบบเกมมัลติเพลเยอร์ที่มีปาร์ตี้ 4 คนด้วย พอปรับมาเป็นเล่นคนเดียวแบบปาร์ตี้ 3 คน เลยต้องกลับมาแก้ระบบต่างๆ ในเกมใหม่หมด
อีกประเด็นของ Dragon Age: The Veilguard คือตอนแรกๆ ลองทำเกมแนวโอเพนเวิลด์ และเจอปัญหาเหมือนเกมอื่นๆ รวมถึงภาค Inquisition คือไม่สามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจมากพอมาเติมเต็มโลกขนาดใหญ่ได้ เกมเวอร์ชันหลังๆ จึงตัดส่วนที่เป็นโอเพนเวิลด์ออก โฟกัสเฉพาะเนื้อหาและฉากสำคัญๆ ในเกมอย่างเดียว
Epler ยังพูดถึงโอกาสที่จะได้เห็นการรีเมคหรือรีมาสเตอร์ Dragon Age ภาคเก่าๆ บอกว่าเขาอยากเห็น แต่ก็เป็นไปได้ยากด้วยข้อจำกัดเรื่องเอนจิน เพราะเกมภาค 1-2 ใช้เอนจินเฉพาะของตัวเองชื่อ Eclipse ส่วนภาค 3 ถึงเปลี่ยนมาใช้ Frostbite และตอนนี้ใน BioWare น่าจะเหลือคนไม่ถึง 20 คนแล้ว (รวมตัวเขาด้วย) ที่เคยผ่านยุค Eclipse มา ในขณะที่ Mass Effect ไตรภาคแรกใช้ Unreal Engine ทั้งหมด การรีมาสเตอร์จึงทำได้ง่ายกว่ามาก
ที่มา - Rolling Stone via IGN
Topics:
Dragon Age
BioWare
Games
Mass Effect
Continue reading...
เกม Dragon Age ภาคก่อนๆ มีเนื้อหาภาคเสริมหรือ DLC กันถ้วนหน้า แต่สถานการณ์ของ BioWare รอบนี้คงแตกต่างออกไป เพราะต้องการทุ่มการพัฒนา Mass Effect ภาคใหม่เพื่อมากู้ชื่อของบริษัทให้ต่อเนื่องจาก Dragon Age: The Veilguard หลังความล้มเหลวครั้งใหญ่ของ Anthem
John Epler หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของ BioWare ยังให้สัมภาษณ์กับ Rolling Stone ว่าตอนออกเกม Dragon Age: Inquisition ในปี 2014 ที่เพิ่มส่วนการเล่นมัลติเพลเยอร์เข้ามา ก็เคยสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนๆ ในยุคนั้น พอถึงการพัฒนา The Veilguard ก็มีการลองทำมัลติเพลเยอร์เช่นกัน เพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมในการเล่าเรื่อง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจมุ่งมาทำเกมเล่นคนเดียวที่เป็นรากเหง้าของสตูดิโอ
การตัดสินใจสำคัญของ BioWare คือเปลี่ยนมาใช้ระบบปาร์ตี้ 3 คน (เหมือน Mass Effect) ซึ่งต่างจาก Dragon Age ภาคก่อนๆ ที่ใช้ปาร์ตี้ 4 คน ตอนแรกทีมออกแบบเกมมัลติเพลเยอร์ที่มีปาร์ตี้ 4 คนด้วย พอปรับมาเป็นเล่นคนเดียวแบบปาร์ตี้ 3 คน เลยต้องกลับมาแก้ระบบต่างๆ ในเกมใหม่หมด
อีกประเด็นของ Dragon Age: The Veilguard คือตอนแรกๆ ลองทำเกมแนวโอเพนเวิลด์ และเจอปัญหาเหมือนเกมอื่นๆ รวมถึงภาค Inquisition คือไม่สามารถสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจมากพอมาเติมเต็มโลกขนาดใหญ่ได้ เกมเวอร์ชันหลังๆ จึงตัดส่วนที่เป็นโอเพนเวิลด์ออก โฟกัสเฉพาะเนื้อหาและฉากสำคัญๆ ในเกมอย่างเดียว
Epler ยังพูดถึงโอกาสที่จะได้เห็นการรีเมคหรือรีมาสเตอร์ Dragon Age ภาคเก่าๆ บอกว่าเขาอยากเห็น แต่ก็เป็นไปได้ยากด้วยข้อจำกัดเรื่องเอนจิน เพราะเกมภาค 1-2 ใช้เอนจินเฉพาะของตัวเองชื่อ Eclipse ส่วนภาค 3 ถึงเปลี่ยนมาใช้ Frostbite และตอนนี้ใน BioWare น่าจะเหลือคนไม่ถึง 20 คนแล้ว (รวมตัวเขาด้วย) ที่เคยผ่านยุค Eclipse มา ในขณะที่ Mass Effect ไตรภาคแรกใช้ Unreal Engine ทั้งหมด การรีมาสเตอร์จึงทำได้ง่ายกว่ามาก
ที่มา - Rolling Stone via IGN
Topics:
Dragon Age
BioWare
Games
Mass Effect
Continue reading...