Evan Williams อดีตซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter (ลงจากตำแหน่งซีอีโอปี 2010, ลาออกจากบอร์ดปี 2019) และ Jason Goldman อดีตพนักงานรุ่นแรกๆ ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่ารู้สึกอย่างไรต่อบริษัทหลังเปลี่ยนมือเจ้าของมาเป็น Elon Musk
Williams และ Goldman บอกว่าตอนแรกที่เห็นข่าว Elon Musk อยากซื้อ Twitter ก็คิดกันว่าไม่ใช่เรื่องจริงจัง น่าจะเหมือนข่าวเศรษฐีอยากซื้อรถสปอร์ตใหม่ทั่วไป หลังจากนั้นเมื่อข่าวเริ่มมาเรื่อยๆ เขาเริ่มคิดว่าเมื่อคนที่รวยที่สุดในโลกอยากซื้อ Twitter เป็นสิ่งที่น่าสนใจ อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
Williams และ Goldman ให้ความเห็นต่อสถานการณ์หลัง Musk ซื้อกิจการเสร็จแล้วว่า เขาทำได้ไม่ดีเท่าไร (it's gone pretty poorly) โดย Goldman ชี้ว่าสิ่งที่บริษัท Twitter ทำในช่วงท้ายๆ ก่อน Musk ซื้อกิจการ ไม่ได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่จับต้องได้ แต่เป็นการต่อสู้กับอาชญากรรม การกลั่นแกล้ง ความเกลียดชังรูปแบบต่างๆ ซึ่งคนมักมองไม่เห็นชัดเจนนัก และต้องให้เครดิตทีมงาน Twitter ในเรื่องนี้
Goldman ยังแสดงความเห็นคัดค้านอดีตเพื่อนร่วมงาน Jack Dorsey ที่มอง Twitter เป็นโปรโตคอลเพื่อถกเถียง เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม (public goods) ว่าในมุมของเขา Twitter คือบริษัทที่หวังผลกำไรมาตั้งแต่แรก เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนี้ได้หลังรับเงินนักลงทุนมาแล้ว ส่วน Williams ก็บอกว่า Twitter ไม่ใช่ "จิตสำนึกของทั้งโลก" (global consciousness) ตามนิยามของ Dorsey แน่ๆ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธที่ Dorsey ตัดสินใจขายให้ Musk เพราะเขารู้ว่า Dorsey รักและแคร์บริษัทจริงๆ
Williams พูดถึงประเด็นรายได้จากโฆษณาของ Twitter ที่ลดลงมาก ว่า Musk ยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ตรงจุดนัก และชื่อเสียงของแบรนด์ Twitter ในสายตานักการตลาดของบริษัทต่างๆ ก็กู้กับมายากด้วย เพราะตอนนี้แบรนด์ Twitter ผูกกับตัวของ Musk อย่างแนบแน่น เขายังบอกว่าหากจัดการ Twitter ไม่ดี มันจะซ้ำรอย Yahoo หรือ MySpace ที่ปัจจุบันก็ยังมีอยู่ แต่ก็ไม่มีใครสนใจแล้ว
ในบทสัมภาษณ์นี้ยังเล่าว่าโลโก้นกสีฟ้าของ Twitter มีชื่อว่า Larry และมีสินค้าที่ระลึกของ Twitter ยุคแรกๆ ให้ดูกันด้วย
ที่มา - Ars Technica
Topics:
Twitter
Elon Musk
Yahoo
อ่านต่อ...
Williams และ Goldman บอกว่าตอนแรกที่เห็นข่าว Elon Musk อยากซื้อ Twitter ก็คิดกันว่าไม่ใช่เรื่องจริงจัง น่าจะเหมือนข่าวเศรษฐีอยากซื้อรถสปอร์ตใหม่ทั่วไป หลังจากนั้นเมื่อข่าวเริ่มมาเรื่อยๆ เขาเริ่มคิดว่าเมื่อคนที่รวยที่สุดในโลกอยากซื้อ Twitter เป็นสิ่งที่น่าสนใจ อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
Williams และ Goldman ให้ความเห็นต่อสถานการณ์หลัง Musk ซื้อกิจการเสร็จแล้วว่า เขาทำได้ไม่ดีเท่าไร (it's gone pretty poorly) โดย Goldman ชี้ว่าสิ่งที่บริษัท Twitter ทำในช่วงท้ายๆ ก่อน Musk ซื้อกิจการ ไม่ได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่จับต้องได้ แต่เป็นการต่อสู้กับอาชญากรรม การกลั่นแกล้ง ความเกลียดชังรูปแบบต่างๆ ซึ่งคนมักมองไม่เห็นชัดเจนนัก และต้องให้เครดิตทีมงาน Twitter ในเรื่องนี้
Goldman ยังแสดงความเห็นคัดค้านอดีตเพื่อนร่วมงาน Jack Dorsey ที่มอง Twitter เป็นโปรโตคอลเพื่อถกเถียง เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม (public goods) ว่าในมุมของเขา Twitter คือบริษัทที่หวังผลกำไรมาตั้งแต่แรก เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนี้ได้หลังรับเงินนักลงทุนมาแล้ว ส่วน Williams ก็บอกว่า Twitter ไม่ใช่ "จิตสำนึกของทั้งโลก" (global consciousness) ตามนิยามของ Dorsey แน่ๆ แต่เขาก็ไม่ได้โกรธที่ Dorsey ตัดสินใจขายให้ Musk เพราะเขารู้ว่า Dorsey รักและแคร์บริษัทจริงๆ
Williams พูดถึงประเด็นรายได้จากโฆษณาของ Twitter ที่ลดลงมาก ว่า Musk ยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ตรงจุดนัก และชื่อเสียงของแบรนด์ Twitter ในสายตานักการตลาดของบริษัทต่างๆ ก็กู้กับมายากด้วย เพราะตอนนี้แบรนด์ Twitter ผูกกับตัวของ Musk อย่างแนบแน่น เขายังบอกว่าหากจัดการ Twitter ไม่ดี มันจะซ้ำรอย Yahoo หรือ MySpace ที่ปัจจุบันก็ยังมีอยู่ แต่ก็ไม่มีใครสนใจแล้ว
ในบทสัมภาษณ์นี้ยังเล่าว่าโลโก้นกสีฟ้าของ Twitter มีชื่อว่า Larry และมีสินค้าที่ระลึกของ Twitter ยุคแรกๆ ให้ดูกันด้วย
ที่มา - Ars Technica
Topics:
Elon Musk
Yahoo
อ่านต่อ...
