OpenAI ออกคำแถลงตอบโต้ หลังจาก Elon Musk หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ยื่นฟ้อง OpenAI และผู้บริหาร รวมทั้ง Sam Altman ซีอีโอ ในหลายประเด็น ทั้งการละเมิดข้อสัญญานำบริษัทไปแสวงหากำไร, ไม่เปิดเผยเทคโนโลยีต่อสาธารณะ ตามแนวทางที่ระบุไว้เมื่อตอนก่อตั้ง
ก่อนหน้านี้ OpenAI ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวเป็นการภายในกับพนักงาน ยืนยันว่าแนวทางทุกอย่างที่ทำนั้นถูกต้องแล้ว
แถลงการณ์ของ OpenAI ลำดับเรื่องราวของการก่อตั้ง OpenAI และสิ่งที่เกิดขึ้น โดยใช้อีเมล 4 ฉบับ ที่ส่งจาก Elon Musk มานำเสนอให้เห็นเรื่องราวเหตุการณ์ เพื่อบอกว่า OpenAI ยังรักษาแนวทางตามเป้าหมายที่จะสร้าง AGI (AI ใช้งานได้ทั่วไป) ตลอดจนความสัมพันธ์ขององค์กรกับ Musk
อีเมลฉบับแรก Musk เสนอว่าในการเปิดตัว OpenAI นั้น ต้องสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ให้เห็นว่าเป้าหมายองค์กรยิ่งใหญ่ ตัวเลขเงินทุนที่เสนอมาตอนแรก 100 ล้านดอลลาร์ นั้นน้อยเกินไป เพราะตัวเลขนี้ Google หรือ Facebook ก็จ่ายได้ไม่ยาก เขาเสนอให้ประกาศไปเลยว่าจะใช้เงินระดมทุนรวมถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ และเงินนี้จะมีมาจริง ๆ ใครไม่จ่ายเขาก็พร้อมจะจ่ายให้
ผ่านไปสองปี OpenAI พบว่า เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายการสร้าง AGI นั้น ต้องใช้ทรัพยากรประมวลผลจำนวนมหาศาล จึงต้องการเงินทุนเพิ่มอีกจำนวนมากระดับหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี ตัวเลขนี้มากกว่าที่ทุกคน รวมทั้ง Elon เคยคิดไว้ในวันแรกที่ก่อตั้ง OpenAI ในรูปแบบองค์กรไม่แสวงหากำไร
OpenAI จึงเริ่มหารือถึงแผนการปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็นแบบมีส่วนที่แสวงหากำไร (For-Profit) ซึ่งใช้แนวทางนี้ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามตอนนั้น Elon เสนอทางเลือกว่า เขาต้องได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่-ควบคุมบอร์ดบริหาร-และเป็นซีอีโอ หรือไม่อย่างนั้นก็ให้ Tesla ซื้อกิจการ OpenAI ไปเลย ในช่วงการต่อรองนี้ Elon ก็หยุดให้เงินทุนกับ OpenAI ด้วย การเจรจานี้ไม่บรรลุ ทำให้ Elon Musk ประกาศลาออกจากบอร์ด OpenAI โดยบอกว่าเขาจะทำ AI เองผ่าน Tesla
อีเมลฉบับที่สองและสาม เป็นเนื้อหาที่ Elon Musk บอกว่า OpenAI ต้องรวมกับ Tesla เท่านั้น จึงจะแข่งขันกับ Google และ DeepMind ได้ เขายังประเมินว่าหาก OpenAI ดำเนินงานต่อไปในรูปแบบที่เสนอมานี้ โอกาสสำเร็จก็คือ 0% ซึ่งเขาก็หวังว่าจะคิดผิด
ทีมวิจัยของ OpenAI รุ่นก่อตั้ง
สุดท้าย OpenAI ยืนยันว่าเทคโนโลยีที่องค์กรพัฒนาขึ้น ถูกนำไปใช้งานในระดับสาธารณะ เช่น โครงการปรับปรุงเกษตรกรรมในเคนย่าและอินเดีย, โครงการ Lifespan ที่ปรับปรุงระบบสุขภาพของรัฐโรดไอแลนด์ หรือโครงการอนุรักษ์ภาษาไอซ์แลนด์ด้วย GPT-4 ของประเทศไอซ์แลนด์ แต่ยิ่งพัฒนา AI เข้าใกล้ AGI มากเท่าใด วิทยาศาสตร์เบื้องหลังของการทำงานก็ต้องถูกปิดมากขึ้นด้วย Open ในชื่อองค์กร OpenAI หมายถึงการเปิดกว้างในการเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยี ให้ทุกคนได้ประโยชน์
อีเมลฉบับสี่ เป็นการโต้ตอบระหว่าง Musk กับ Ilya Sutskever หัวหน้าฝ่าย Scientist ของ OpenAI ซึ่ง Ilya พูดถึงประเด็นนี้ว่าหากเราโอเพนซอร์สทุกอย่าง จะมีคนพยายามมองหาช่องโหว่และสร้าง AI ที่ไม่ปลอดภัยขึ้นมาได้ ยิ่งพัฒนา AI ที่ฉลาดมากเท่าใด ก็ยิ่งต้องเปิดเผยน้อยลง ซึ่ง Musk ก็ตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า "Yup"
OpenAI ปิดท้ายคำแถลงว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจมาก ที่คนซึ่งพวกเราเคารพและช่วยเหลือ ตลอดจนผลักดันให้ทุกคนมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ รวมทั้งเคยเตือนว่าเราจะล้มเหลว ตอนนี้มาฟ้องร้องพวกเรา เพราะว่า OpenAI ก้าวไปข้างหน้าได้ดี โดยไม่ต้องมีเขาอยู่
ที่มา: OpenAI
Topics:
OpenAI
Elon Musk
อ่านต่อ...
ก่อนหน้านี้ OpenAI ได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวเป็นการภายในกับพนักงาน ยืนยันว่าแนวทางทุกอย่างที่ทำนั้นถูกต้องแล้ว
แถลงการณ์ของ OpenAI ลำดับเรื่องราวของการก่อตั้ง OpenAI และสิ่งที่เกิดขึ้น โดยใช้อีเมล 4 ฉบับ ที่ส่งจาก Elon Musk มานำเสนอให้เห็นเรื่องราวเหตุการณ์ เพื่อบอกว่า OpenAI ยังรักษาแนวทางตามเป้าหมายที่จะสร้าง AGI (AI ใช้งานได้ทั่วไป) ตลอดจนความสัมพันธ์ขององค์กรกับ Musk
อีเมลฉบับแรก Musk เสนอว่าในการเปิดตัว OpenAI นั้น ต้องสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ให้เห็นว่าเป้าหมายองค์กรยิ่งใหญ่ ตัวเลขเงินทุนที่เสนอมาตอนแรก 100 ล้านดอลลาร์ นั้นน้อยเกินไป เพราะตัวเลขนี้ Google หรือ Facebook ก็จ่ายได้ไม่ยาก เขาเสนอให้ประกาศไปเลยว่าจะใช้เงินระดมทุนรวมถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ และเงินนี้จะมีมาจริง ๆ ใครไม่จ่ายเขาก็พร้อมจะจ่ายให้
ผ่านไปสองปี OpenAI พบว่า เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายการสร้าง AGI นั้น ต้องใช้ทรัพยากรประมวลผลจำนวนมหาศาล จึงต้องการเงินทุนเพิ่มอีกจำนวนมากระดับหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี ตัวเลขนี้มากกว่าที่ทุกคน รวมทั้ง Elon เคยคิดไว้ในวันแรกที่ก่อตั้ง OpenAI ในรูปแบบองค์กรไม่แสวงหากำไร
OpenAI จึงเริ่มหารือถึงแผนการปรับโครงสร้างองค์กรให้เป็นแบบมีส่วนที่แสวงหากำไร (For-Profit) ซึ่งใช้แนวทางนี้ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามตอนนั้น Elon เสนอทางเลือกว่า เขาต้องได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่-ควบคุมบอร์ดบริหาร-และเป็นซีอีโอ หรือไม่อย่างนั้นก็ให้ Tesla ซื้อกิจการ OpenAI ไปเลย ในช่วงการต่อรองนี้ Elon ก็หยุดให้เงินทุนกับ OpenAI ด้วย การเจรจานี้ไม่บรรลุ ทำให้ Elon Musk ประกาศลาออกจากบอร์ด OpenAI โดยบอกว่าเขาจะทำ AI เองผ่าน Tesla
อีเมลฉบับที่สองและสาม เป็นเนื้อหาที่ Elon Musk บอกว่า OpenAI ต้องรวมกับ Tesla เท่านั้น จึงจะแข่งขันกับ Google และ DeepMind ได้ เขายังประเมินว่าหาก OpenAI ดำเนินงานต่อไปในรูปแบบที่เสนอมานี้ โอกาสสำเร็จก็คือ 0% ซึ่งเขาก็หวังว่าจะคิดผิด
สุดท้าย OpenAI ยืนยันว่าเทคโนโลยีที่องค์กรพัฒนาขึ้น ถูกนำไปใช้งานในระดับสาธารณะ เช่น โครงการปรับปรุงเกษตรกรรมในเคนย่าและอินเดีย, โครงการ Lifespan ที่ปรับปรุงระบบสุขภาพของรัฐโรดไอแลนด์ หรือโครงการอนุรักษ์ภาษาไอซ์แลนด์ด้วย GPT-4 ของประเทศไอซ์แลนด์ แต่ยิ่งพัฒนา AI เข้าใกล้ AGI มากเท่าใด วิทยาศาสตร์เบื้องหลังของการทำงานก็ต้องถูกปิดมากขึ้นด้วย Open ในชื่อองค์กร OpenAI หมายถึงการเปิดกว้างในการเข้าถึงและใช้งานเทคโนโลยี ให้ทุกคนได้ประโยชน์
อีเมลฉบับสี่ เป็นการโต้ตอบระหว่าง Musk กับ Ilya Sutskever หัวหน้าฝ่าย Scientist ของ OpenAI ซึ่ง Ilya พูดถึงประเด็นนี้ว่าหากเราโอเพนซอร์สทุกอย่าง จะมีคนพยายามมองหาช่องโหว่และสร้าง AI ที่ไม่ปลอดภัยขึ้นมาได้ ยิ่งพัฒนา AI ที่ฉลาดมากเท่าใด ก็ยิ่งต้องเปิดเผยน้อยลง ซึ่ง Musk ก็ตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า "Yup"
OpenAI ปิดท้ายคำแถลงว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจมาก ที่คนซึ่งพวกเราเคารพและช่วยเหลือ ตลอดจนผลักดันให้ทุกคนมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ รวมทั้งเคยเตือนว่าเราจะล้มเหลว ตอนนี้มาฟ้องร้องพวกเรา เพราะว่า OpenAI ก้าวไปข้างหน้าได้ดี โดยไม่ต้องมีเขาอยู่
ที่มา: OpenAI
Topics:
OpenAI
Elon Musk
อ่านต่อ...
