Peter Moore อดีตผู้บริหารสูงสุดของ Xbox ระหว่างปี 2003-2007 ผู้รับผิดชอบ Xbox 360 ซึ่งถือเป็นยุคทองของ Xbox ออกมาให้ความเห็นเรื่องอนาคตของฮาร์ดแวร์เกมคอนโซลในสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป และชี้ว่าตอนนี้ภายในทีมไมโครซอฟท์คงกำลังถกกันอย่างหนักว่า "ยังจำเป็นต้องมีคอนโซล Xbox อยู่อีกไหม"
ประวัติของ Peter Moore เคยเป็นผู้บริหารของ Sega of America และเคยอยู่ในช่วงที่บริษัทถอนตัวจากธุรกิจฮาร์ดแวร์คอนโซล (หลัง Dreamcast ไม่ประสบความสำเร็จ) เขาย้ายมาคุมทีม Xbox ในปี 2003-2007 จากนั้นย้ายไปคุมทีมเกมกีฬาของ EA ระหว่างปี 2007-2017 และย้ายข้ามธุรกิจมาเป็นซีอีโอของสโมสรฟุตบอล Liverpool FC ในปี 2017-2020 (ลงจากตำแหน่งหลังได้แชมป์พรีเมียร์ลีก)
Peter Moore ภาพจาก Liverpool FC
Moore อธิบายว่าธุรกิจฮาร์ดแวร์เกมคอนโซลเป็นธุรกิจที่โหดร้าย เพราะขาดทุนหนัก แต่เป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นตัวช่วยให้เกมเมอร์เข้าถึงซอฟต์แวร์และบริการได้ ในอดีตการมีฮาร์ดแวร์คอนโซลเป็นเรื่องสำคัญ เพราะใช้ง่าย ใส่ตลับ-แผ่นเกมแล้วเล่นได้เลย อีกทั้งมีพลังประมวลผลสูง
แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาเรื่องการเข้าถึงซอฟต์แวร์และบริการไปมากแล้ว ทุกวันนี้เราไม่เห็นฮาร์ดแวร์เฉพาะสำหรับเล่นเพลง-ภาพยนตร์อีกต่อไปแล้ว เพราะคนใช้วิธีสตรีมเพลง-ภาพยนตร์จากอินเทอร์เน็ตโดยตรงกันหมดแล้ว
Moore ยังบอกว่ารูปแบบการบริโภคสื่อบันเทิงของคนเปลี่ยนไป วัยรุ่นยุคใหม่ไม่นั่งเล่นเกมหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นตอนเย็นอีกแล้ว แต่ใช้เวลาว่างไปกับสิ่งบันเทิงหลายรูปแบบ ทั้งโซเชียล, ดูหนังผ่านสตรีมมิ่ง, ดูคลิปสั้น TikTok, ดูรายการบน YouTube โดยทุกอย่างทำผ่านมือถือ คนยังเล่นเกมยังอยู่มาก แต่วิธีการเล่นเปลี่ยนไป เราไปนอนเล่นในห้องนอนแทน คำถามคือคนรุ่นใหม่ยังยินดีจะจ่าย 500 ดอลลาร์เพื่อฮาร์ดแวร์หนึ่งชิ้นที่เล่นเกมได้เพียงอย่างเดียวอีกไหม ในเมื่อเราสามารถเล่นเกมได้บนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ เพียงแค่ซื้อจอยเกมดีๆ เพิ่มสักอันเท่านั้น
เขาบอกว่าคำถามว่า "คอนโซลยังต้องมีอยู่ไหม" เป็นสิ่งที่ถกกันมานานแล้ว ในปี 2007 ทีมของเขาก็เคยถกเถียงกันภายในว่าตกลงแล้ว Xbox 360 เป็นคอนโซลเจ็นสุดท้ายหรือเปล่าด้วยซ้ำ ซึ่งคำตอบตอนนั้นสรุปได้ว่ายังต้องมีคอนโซลอยู่ แต่ทีมก็ตั้งคำถามที่ท้าทายมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
Moore ชี้ว่ารากเหง้าของไมโครซอฟท์แตกต่างจากโซนี่ที่เป็นบริษัทฮาร์ดแวร์ เพราะไมโครซอฟท์เป็นบริษัทฮาร์ดแวร์ ยิ่งในยุคนี้ไมโครซอฟท์มี Azure เป็นธุรกิจหลัก ดังนั้นเขามองว่าไมโครซอฟท์น่าจะอยากเห็นทุกอย่างย้ายขึ้นคลาวด์มากกว่า อีกทั้งการสร้างคอนโซลรุ่นใหม่ในยุคนี้เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะปัจจัยที่ดึงดูดให้ผู้ใช้อัพเกรดมีน้อยมาก Moore ตั้งคำถามว่าถ้ามี PS6 เกิดขึ้นมา อะไรคือฟีเจอร์ของ PS6 ที่ PS5 ในปัจจุบันไม่สามารถให้ได้ แล้วเป็นเหตุให้คนต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อ PS6 ซึ่งมันไม่ง่ายเลย
Moore บอกว่าเขายังไม่ฟันธงว่าถึงจุดสิ้นสุดของฮาร์ดแวร์เกมคอนโซลแล้วหรือยัง แต่เขาเชื่อว่าในบริษัทเกมทั้ง 3 ราย มีการคำถามนี้กันอย่างหนักหน่วงแน่นอน เขาเชื่อว่า Phil Spencer (ซึ่งเป็นลูกน้องเก่าของเขา) จะต้องได้รับคำถามจาก Satya Nadella ว่าได้เงินไปซื้อ Activision Blizzard ตั้ง 69 พันล้านดอลลาร์แล้ว แล้วอนาคตของธุรกิจเกมในอีก 5-10 ปีข้างหน้านั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร
สุดท้าย Moore บอกว่าไมโครซอฟท์ไม่ควรกลัวเสียงวิจารณ์จากกลุ่ม "เกมเมอร์ Xbox ฮาร์ดคอร์" เพราะคนกลุ่มนี้จะมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ และแก่ลงไปเรื่อยๆ ไมโครซอฟท์ควรฟังเสียงคนรุ่นใหม่ที่จำเป็นลูกค้าในอีก 10-20 ปีข้างหน้าจะดีกว่า
ที่มา - IGN
Topics:
Xbox
Xbox 360
Games
Microsoft
อ่านต่อ...
ประวัติของ Peter Moore เคยเป็นผู้บริหารของ Sega of America และเคยอยู่ในช่วงที่บริษัทถอนตัวจากธุรกิจฮาร์ดแวร์คอนโซล (หลัง Dreamcast ไม่ประสบความสำเร็จ) เขาย้ายมาคุมทีม Xbox ในปี 2003-2007 จากนั้นย้ายไปคุมทีมเกมกีฬาของ EA ระหว่างปี 2007-2017 และย้ายข้ามธุรกิจมาเป็นซีอีโอของสโมสรฟุตบอล Liverpool FC ในปี 2017-2020 (ลงจากตำแหน่งหลังได้แชมป์พรีเมียร์ลีก)
Peter Moore ภาพจาก Liverpool FC
Moore อธิบายว่าธุรกิจฮาร์ดแวร์เกมคอนโซลเป็นธุรกิจที่โหดร้าย เพราะขาดทุนหนัก แต่เป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นตัวช่วยให้เกมเมอร์เข้าถึงซอฟต์แวร์และบริการได้ ในอดีตการมีฮาร์ดแวร์คอนโซลเป็นเรื่องสำคัญ เพราะใช้ง่าย ใส่ตลับ-แผ่นเกมแล้วเล่นได้เลย อีกทั้งมีพลังประมวลผลสูง
แต่ปัจจุบัน เทคโนโลยีช่วยแก้ปัญหาเรื่องการเข้าถึงซอฟต์แวร์และบริการไปมากแล้ว ทุกวันนี้เราไม่เห็นฮาร์ดแวร์เฉพาะสำหรับเล่นเพลง-ภาพยนตร์อีกต่อไปแล้ว เพราะคนใช้วิธีสตรีมเพลง-ภาพยนตร์จากอินเทอร์เน็ตโดยตรงกันหมดแล้ว
Moore ยังบอกว่ารูปแบบการบริโภคสื่อบันเทิงของคนเปลี่ยนไป วัยรุ่นยุคใหม่ไม่นั่งเล่นเกมหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นตอนเย็นอีกแล้ว แต่ใช้เวลาว่างไปกับสิ่งบันเทิงหลายรูปแบบ ทั้งโซเชียล, ดูหนังผ่านสตรีมมิ่ง, ดูคลิปสั้น TikTok, ดูรายการบน YouTube โดยทุกอย่างทำผ่านมือถือ คนยังเล่นเกมยังอยู่มาก แต่วิธีการเล่นเปลี่ยนไป เราไปนอนเล่นในห้องนอนแทน คำถามคือคนรุ่นใหม่ยังยินดีจะจ่าย 500 ดอลลาร์เพื่อฮาร์ดแวร์หนึ่งชิ้นที่เล่นเกมได้เพียงอย่างเดียวอีกไหม ในเมื่อเราสามารถเล่นเกมได้บนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ เพียงแค่ซื้อจอยเกมดีๆ เพิ่มสักอันเท่านั้น
เขาบอกว่าคำถามว่า "คอนโซลยังต้องมีอยู่ไหม" เป็นสิ่งที่ถกกันมานานแล้ว ในปี 2007 ทีมของเขาก็เคยถกเถียงกันภายในว่าตกลงแล้ว Xbox 360 เป็นคอนโซลเจ็นสุดท้ายหรือเปล่าด้วยซ้ำ ซึ่งคำตอบตอนนั้นสรุปได้ว่ายังต้องมีคอนโซลอยู่ แต่ทีมก็ตั้งคำถามที่ท้าทายมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
Moore ชี้ว่ารากเหง้าของไมโครซอฟท์แตกต่างจากโซนี่ที่เป็นบริษัทฮาร์ดแวร์ เพราะไมโครซอฟท์เป็นบริษัทฮาร์ดแวร์ ยิ่งในยุคนี้ไมโครซอฟท์มี Azure เป็นธุรกิจหลัก ดังนั้นเขามองว่าไมโครซอฟท์น่าจะอยากเห็นทุกอย่างย้ายขึ้นคลาวด์มากกว่า อีกทั้งการสร้างคอนโซลรุ่นใหม่ในยุคนี้เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะปัจจัยที่ดึงดูดให้ผู้ใช้อัพเกรดมีน้อยมาก Moore ตั้งคำถามว่าถ้ามี PS6 เกิดขึ้นมา อะไรคือฟีเจอร์ของ PS6 ที่ PS5 ในปัจจุบันไม่สามารถให้ได้ แล้วเป็นเหตุให้คนต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อ PS6 ซึ่งมันไม่ง่ายเลย
Moore บอกว่าเขายังไม่ฟันธงว่าถึงจุดสิ้นสุดของฮาร์ดแวร์เกมคอนโซลแล้วหรือยัง แต่เขาเชื่อว่าในบริษัทเกมทั้ง 3 ราย มีการคำถามนี้กันอย่างหนักหน่วงแน่นอน เขาเชื่อว่า Phil Spencer (ซึ่งเป็นลูกน้องเก่าของเขา) จะต้องได้รับคำถามจาก Satya Nadella ว่าได้เงินไปซื้อ Activision Blizzard ตั้ง 69 พันล้านดอลลาร์แล้ว แล้วอนาคตของธุรกิจเกมในอีก 5-10 ปีข้างหน้านั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร
สุดท้าย Moore บอกว่าไมโครซอฟท์ไม่ควรกลัวเสียงวิจารณ์จากกลุ่ม "เกมเมอร์ Xbox ฮาร์ดคอร์" เพราะคนกลุ่มนี้จะมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ และแก่ลงไปเรื่อยๆ ไมโครซอฟท์ควรฟังเสียงคนรุ่นใหม่ที่จำเป็นลูกค้าในอีก 10-20 ปีข้างหน้าจะดีกว่า
ที่มา - IGN
Topics:
Xbox
Xbox 360
Games
Microsoft
อ่านต่อ...